สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงติดตามความคืบหน้าการเตรียมงานนิทรรศการเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสได้รับทูลเกล้าถวายพระสมัญญา “สิริศิลปิน”และงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยนานาชาติ ครั้งที่ ๒ (Thailand Biennale,Korat 2021) ณ หอศิลป์พิมานทิพย์ จังหวัดนครราชสีมา เป็นการส่วนพระองค์
วันนี้ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๔ เวลา ๑๓.๒๒ น. สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เสด็จไปทรงติดตามความคืบหน้าการเตรียมงานนิทรรศการเทิดพระเกียรติ เนื่องในโอกาสได้รับทูลเกล้าถวายพระสมัญญา “สิริศิลปิน” และงานมหกรรมศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยนานาชาติ ครั้งที่ ๒ (Thailand Biennale, Korat 2021) ณ หอศิลป์พิมานทิพย์ ตำบลโป่งตาลอง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
การนี้ ทอดพระเนตรผลงานศิลปะแขนงต่าง ๆ ซึ่งเป็นภาพวาดฝีพระหัตถ์ใน สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ซึ่งเป็นผลงานชุดใหม่ที่ทรงวาดเฉพาะจัดแสดงในงานนี้ ที่สะท้อนถึงพระอัจฉริยภาพด้านงานศิลป์ขององค์ “สิริศิลปิน” รวมถึงผลงานประติมากรรมและศิลปกรรมของศิลปินทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่คณะผู้จัดงานฯ ได้นำมาจัดแสดงไว้ ณ พื้นที่อาคาร ๑ และอาคาร ๒ หอศิลป์พิมานทิพย์ โดยมีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นางสาวเกษร กำเหนิดเพ็ชร รองผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม อาจารย์ปัญญา วิจินธนสาร ศิลปินแห่งชาติ และคณะฯ เฝ้ารับเสด็จ การจัดงานนิทรรศการเทิดพระเกียรติ ฯ และงานแสดงศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยนานาชาติ ครั้งที่ ๒ Thailand Biennale, Korat 2021 จะจัดขึ้นในพื้นที่ ๓ แห่ง ของจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ อำเภอเมืองนครราชสีมา อำเภอพิมาย และ หอศิลป์พิมานทิพย์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนนครราชสีมา ทั้งนี้จะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๖๔
โอกาสนี้ สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงติดตามสถานการณ์อุทกภัยอย่างใกล้ชิด ด้วยทรงห่วงใยประชาชนในพื้นที่ พระราชทานพระวโรกาสให้ นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เฝ้ากราบทูลรายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาและรับพระราชทานถุงยังชีพ จำนวน ๕๐๐ ชุด เพื่อนำไปแจกจ่ายแก่ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ยังความปลื้มปีติและซาบซึ้งในพระกรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้
จังหวัดนครราชสีมา ได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมพาดผ่านและจากพายุ “เตี้ยนหมู่” ทำให้ฝนตกหนักในพื้นที่ รวมทั้งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ในวันที่ ๑๖-๑๗ ตุลาคม ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้ มีพื้นที่ประสบอุทกภัย รวม ๑๒ อำเภอ ๕๘ ตำบล มีประชาชนได้รับผลกระทบ ๗,๔๐๓ ครัวเรือน